ปั๊มดับเพลิง Fire Pump เลือกใช้งานอย่างไรให้เหมาะสม
หน้าหลัก
/
บทความ
/
ปั๊มดับเพลิง Fire Pump เลือกใช้งานอย่างไรให้เหมาะสม

ปั๊มดับเพลิง Fire Pump เลือกใช้งานอย่างไรให้เหมาะสม

วิธีการเลือกใช้งานปั๊มดับเพลิง Fire Pump ให้เหมาะสำหรับการใช้งาน

ปั๊มดับเพลิง (Fire Pump) เป็นอุปกรณ์สำคัญในระบบดับเพลิงที่ช่วยส่งน้ำแรงดันสูงไปยังระบบสปริงเกอร์ หรือ หัวจ่ายน้ำเพื่อควบคุมเพลิงไหม้  ซึ่งปั๊มดับเพลิง (Fire Pump) เป็นส่วนสำคัญในระบบดับเพลิงที่ใช้ในอาคาร เพื่อให้มั่นใจว่ามีการจ่ายน้ำที่เพียงพอในการดับไฟในกรณีฉุกเฉิน การเลือกเครื่องปั๊มดับเพลิงที่มีประสิทธิภาพ และ มีการติดตั้งอย่างถูกต้องตามมาตรฐาน จะช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดอัคคีภัย และ เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัยในอาคาร ดังนั้นการเลือกปั๊มดับเพลิงให้เหมาะสมกับการใช้งานจึงเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างละเอียด เพื่อให้ระบบมีประสิทธิภาพสูงสุด และ สอดคล้องกับมาตรฐานความปลอดภัย บทความนี้จึงจะอธิบายปัจจัยสำคัญในการเลือกปั๊มดับเพลิง และ แนวทางการใช้งานอย่างเหมาะสม


ประเภทของปั๊มดับเพลิง  Fire Pump

โดยก่อนการเลือกปั๊มดับเพลิง  (Fire Pump) นั้นควรเข้าใจประเภทต่างๆของปั๊มดับเพลิงก่อนที่จะเลือกใช้ให้เหมาะสมกับการใช้งานแต่ละแบบ โดยปั๊มดับเพลิงมีประเภทหลักต่างๆ ดังนี้

  1. Centrifugal Fire Pump (ปั๊มหอยโข่ง)
    ปั๊มดับเพลิง Fire Pump ประเภทหอยโข่งนั้นจะมีลักษณะการทำงานที่ใช้ใบพัดหมุนเพื่อสร้างแรงดันน้ำ เหมาะสำหรับการจ่ายน้ำในระบบที่มีแรงดันต่อเนื่อง ข้อดีของปั๊มแบบนี้คือมีความเสถียรในการทำงาน เหมาะกับระบบที่ต้องการจ่ายน้ำปริมาณมาก อีกทั้งยังมีหลายขนาดให้เลือกตามความต้องการการใช้งาน ซึ่งปั๊มประเภทนี้นั้นนิยมใช้ในอาคารสูง โรงงานอุตสาหกรรม และ ระบบดับเพลิงที่ต้องการน้ำปริมาณมาก

  2. Vertical Turbine Fire Pump
    โดยปั๊มดับเพลิง Fire Pump ประเภทแนวตั้งนั้นจะมีลักษณะการทำงานที่ใช้กำลังสำหรับสูบน้ำจากแหล่งน้ำที่ลึกลงไป เช่น บ่อ หรือถังน้ำใต้ดิน โดยมีข้อดีที่เหมาะสำหรับการจ่ายน้ำในพื้นที่ที่มีแหล่งน้ำใต้ดิน อีกทั้งยังประหยัดพื้นที่ติดตั้ง จึงเหมาะกับการใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรม หรือ สถานที่ที่มีแหล่งน้ำใต้ดินนั้นเอง

  3. Positive Displacement Fire Pump
    ปั๊มดับเพลิง Fire Pump แบบโรตารีนั้นมีลักษณะการทำงานที่ใช้ลูกสูบ หรือ โรเตอร์ในการเคลื่อนน้ำ เหมาะสำหรับการจ่ายน้ำแรงดันสูงในปริมาณน้อย โดยมีข้อดีที่เหมาะสำหรับระบบที่ต้องการแรงดันน้ำคงที่ อีกทั้งยังสามารถใช้กับของเหลวชนิดพิเศษ เช่น น้ำมันดับเพลิง จึงเหมาะกับการใช้งานในอุตสาหกรรมเฉพาะทาง

  4. Diesel Engine Fire Pump
    ปั๊มดับเพลิง Fire Pump ใช้พลังงานดีเซลนั้นมีลักษณะการทำงานที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลในการขับเคลื่อน เหมาะสำหรับกรณีที่ไม่มีแหล่งจ่ายไฟฟ้าเพียงพอ โดยมีข้อดีที่ปั๊มสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องพึ่งพาไฟฟ้า จึงเหมาะสำหรับระบบที่ต้องการความปลอดภัยสูง ลักษณะการใช้งานจุเหมาะสำหรับใช้ในสถานที่ที่ไฟฟ้าอาจขัดข้องบ่อยๆ เช่น โรงงานในพื้นที่ห่างไกล เป็นต้น

  5. Electric Fire Pump
    ปั๊มดับเพลิง Fire Pump ที่มีลักษณะการทำงานโดยการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนตัวปั๊มซึ่งมี
    ข้อดีที่สามารถติดตั้งได้ง่าย ไม่ต้องบำรุงรักษาเครื่องยนต์เหมาะกับการใช้งานสำหรับอาคารในเขตเมืองที่มีระบบไฟฟ้าเสถียรนั้นเอง


ปัจจัยสำคัญในการเลือกปั๊มดับเพลิง Fire Pump

  1. ความต้องการใช้น้ำในระบบ (Flow Rate)
    โดยเรามีวิธีการพิจารณาในการเลือกใช้ ปั๊มดับเพลิง Fire Pump เพื่อคำนวณอัตราการไหลของน้ำที่ระบบต้องการ โดยหน่วยมักใช้ลิตรต่อนาที (L/min) หรือ แกลลอนต่อนาที (GPM) ยกตัวอย่างเช่น หากระบบสปริงเกอร์ในอาคารสูงอาจต้องการน้ำ 1,000 GPM ดังนั้นต้องเลือกปั๊มที่สามารถจ่ายน้ำได้ตามกำลังความต้องการในระบบเป็นต้น

  2. แรงดันน้ำ (Pressure)
    เลือกตามค่าแรงดันน้ำของ ปั๊มดับเพลิง Fire Pump โดยมีวิธีการพิจารณาซึ่งคำนวณแรงดันน้ำที่ต้องการ ให้เหมาะสมโดยเฉพาะในอาคารสูง หรือ พื้นที่ที่ต้องส่งน้ำระยะไกล ยกตัวอย่าง หากต้องการส่งน้ำขึ้นไปยังอาคารสูง 10 ชั้น แรงดันที่ต้องการอาจอยู่ที่ราวๆ 100 PSI นั้นเอง

  3. แหล่งจ่ายพลังงาน
    ในการเลือกประเภทปั๊มดับเพลิง Fire Pumpตามความเหมาะสมนั้นควรคำนึงถึงแหล่งจ่ายพลังงานโดยควรเลือกว่าสถานที่ติดตั้งนั้นมีความพร้อมแบบใดโดยหากเป็นปั๊มดับเพลิงระบบไฟฟ้านั้นจะเหมาะกับสถานที่ที่มีระบบไฟฟ้าคงที่ แต่หากเป็นปั๊มดับเพลิงระบบดีเซลจะเหมาะสำหรับพื้นที่ที่ไฟฟ้าไม่เสถียร หรือ ติดตั้งเพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน เป็นต้น

  4. มาตรฐาน และ การรับรอง
    ไม่ว่าเราจะเลือกใช้งานปั๊มดับเพลิง Fire Pump ประเภทใดควรเลือกปั๊มที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากล เช่น NFPA 20 (National Fire Protection Association) ซึ่งเป็นมาตรฐานสำหรับระบบปั๊มดับเพลิง และ UL/FM Approved เป็นการรับรองความปลอดภัยของอุปกรณ์ เพื่อการใช้
    งานอย่างมีประสิทธิภาพ และ ความปลอดภัยกับผู้ใช้งาน

  5. ขนาด และ พื้นที่ติดตั้ง
    ในการเลือกปั๊มดับเพลิง Fire Pumpควรคำนึงถึงพื้นที่ที่มีอยู่สำหรับติดตั้งปั๊ม และเลือกปั๊มที่มีขนาดเหมาะสมเพื่อให้สามารถติดตั้ง และใช้งานได้อย่างสะดวกนั้นเอง

  6. การบำรุงรักษา
    ควรเลือกปั๊มดับเพลิง Fire Pump ที่ง่ายต่อการบำรุงรักษา และอะไหล่พร้อมจำหน่ายในกรณีที่ต้องการเปลี่ยน หรือ เลือกซื้อกับผู้ผลิต และจัดจำหน่ายที่มีคุณภาพ มีความน่าเชื่อถือมีการดูแลหลังการขายที่ได้มาตรฐานสากล


จากที่กล่าวมาทั้งหมดจะเห็นได้ว่าการเลือกปั๊มดับเพลิง Fire Pump ให้เหมาะสมกับการใช้งานเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ระบบดับเพลิงมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ประเภทปั๊ม ความต้องการใช้น้ำ แหล่งจ่ายพลังงาน มาตรฐานความปลอดภัย อีกทั้งควรมีการติดตั้งที่ถูกต้อง และมีการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานของปั๊ม เพื่อเพิ่มความมั่นใจในระบบดับเพลิงของคุณให้มีประสิทธิภาพ ดังนั้นหากสนใจใน ปั๊มดับเพลิง Fire Pump ที่มีมาตรฐานเราขอแนะนำ TN Group ผู้ผลิต และนำเข้าสินค้าอุตสาหกรรม   ปั๊มดับเพลิง Fire Pumpจากทั่วโลก เราจึงเป็นผู้นำในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม งานอาคาร งานราชการ และงานเกษตรกรรม เราพร้อมนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุด และ หลากหลายที่สุด จึงมั่นใจได้ว่าสินค้าทุกชนิดของเราได้มาตรฐาน และ มีคุณภาพอย่างแน่นอน


ติดต่อสอบถามได้ที่
ที่อยู่: สำนักงานใหญ่ เพชรเกษม 91 เลขที่ 18/5 หมู่ที่ 13 ซ.เพชรเกษม 91 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ. สมุทรสาคร 74130

โทร: 02-115-5000  
Line ID: @tngroupfan 

บทความที่เกี่ยวข้อง
พร้อมใช้รถไฟฟ้าไปกับ DELTA EV-Charger AC Max
Industrial Internet of Thing (IIoT) คืออะไร ?
ความแตกต่างระหว่าง ROOTS BLOWER กับ RING BLOWER
2 ประเภทของเซ็นเซอร์ม่านแสงนิรภัย
ติดต่อเรา